วันพฤหัสบดี, เมษายน 22, 2553

กิจกรรมใหม่ของแกรมมี่





เด็ก...เที่ยว
ปิดเทอมนี้ เที่ยวไหนมาแล้วประทับใจที่สุด ส่งรูปตัวเองกับสถานที่ที่ประทับใจมาให้ดูหน่อย .. รูปไหนทำให้ “เด็กเที่ยวตัวอย่าง” ประทับใจไปด้วย รับกล้อง Holga ฟรี !!! วันนี้ ถึง 7 พฤษภาคม 53
ประกาศผล 10 พฤษภาคม 53 http://gmmtv.gmember.com/teentravel.php



คอนเสิร์ตช่องแกรมมี่สัญจร
“ คอนเสิร์ตช่องแกรมมี่สัญจร ”จากช่องแกรมมี่ กิจกรรมสนุกๆ ที่แกรมมี่จะสัญจรไปถึงประตูบ้านคุณทั่วประเทศ กับคอนเสิร์ตของศิลปินที่เป็นที่สุด
จาก Fan TV / Bang Channel / Green Channel และ Acts Channel
วันที่ 24 เมษายน พบกันที่ จ. พิษณุโลก บริเวณ สนามฟุตบอลโรงรียนสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
กับ ศิลปิน .. เป็ก ผลิตโชค / พั้นซ์ / อ๊อฟ ปองศักดิ์ /แคลลอรี่ บลาบลา / กิ่ง The Star 5 /
เสถียร / เอิ้นขวัญ

อยากร่วมสนุก ลงทะเบียนรับบัตร ส่ง SMS พิมพ์ B เว้นวรรค ตามด้วยจังหวัดที่ต้องการขอรับบัตร แล้วส่งมาที่เบอร์ 4242802
“ คอนเสิร์ตช่องแกรมมี่สัญจร ” สัญจรความสนุกถึงบ้านคุณ
http://bangchannel.gmember.com/newsdetail.php?news_id=812






“โอ๊ค” นำทีมจัด “รถโรงเรียน สปอร์ตเดย์” “จอห์น-เป๊ก”
“แท็คทีม “บอล, แคล, พลอย, แพร, ฟรอยด์, นิกกี้”
แข่งกีฬาดับร้อน ติดตามชมได้ในรายการ “รถโรงเรียน” วันอาทิตย์ที่ 18 เม.ย.นี้
http://gmmtv.gmember.com/news_detail.php?news_id=902

วันพุธ, เมษายน 21, 2553

ซัมซุงพาเหรดที่สุดนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ปฏิวัติประสบการณ์ดิจิตอลสู่ผู้บริโภคครั้งแรกในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010”
เผยโฉม 3DTV เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งความบันเทิงภายในบ้านครั้งแรกในเอเซีย
เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลยุทธ์แห่งปี: กล้องดิจิตอลไฮบริด NX10 และคอนเทนต์ 3DTV โซลูชันพร้อม แอพพลิเคชันเพื่อการเชื่อมต่อไร้พรมแดน
กลางภาพ
3DTV 3DTV2
กรุงเทพฯ (4 มีนาคม 2553) – ซัมซุงเดินหน้ารุกตอกย้ำบทบาทแชมป์ผู้นำตลาดเอเซีย จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีประจำภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิกขึ้น เป็นครั้งแรกในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010” ณ ประเทศสิงคโปร์ เดินหน้ารุกตลาดเอเซียเน้น สร้างประสบการณ์ดิจิตอลสู่ผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมปฏิวัติประสบการณ์ความ บันเทิงภายในบ้านด้วย 3DTV พร้อมอวดโฉมผลิตภัณฑ์กลยุทธ์กล้องดิจิตอลไฮบริด NX10 และคอนเทนด์ 3DTV โซลูชันพร้อมแอพพลิเคชันเพื่อการเชื่อมต่อไร้พรมแดนพลิกประสบการณ์ผู้บริโภค อย่างแน่นอน

นายมนาเทศ อันนวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “งานจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของซัมซุง ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคหรือ “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010” คือการรวบรวมนวัตกรรมใหม่ที่เป็นไฮไลท์ประจำปีครั้งยิ่งใหญ่จากทุกกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงมาจัดแสดงเอาไว้ ณ ที่เดียวกันเป็นครั้งแรกในภูมิภาค ซึ่งจะการปฏิวัติประสบการณ์ของผู้บริโภคไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ซัมซุง คิดค้นขึ้นเพื่อพลิกประสบการณ์ดิจิตอลของผู้บริโภคเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นสำ หรับทุกไลฟ์สไตล์ โดยนวัตกรรมไฮไลต์ในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010” ได้แก่ ทีวีสามมิติ (3DTV) ฟูลเอชดี 3D โซลูชัน ซึ่งเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิงที่ได้รับรางวัลการันตีจากซัมซุงใน ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กล้องดิจิตอลไฮบริด NX10 ที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยเพรียวบางผสาน สุดยอดเทคโนโลยีอย่างลงตัว อีบุ๊ค (eBook) รุ่นใหม่ล่าสุดจากกลุ่มจอแสดงผล และพาเหรดนวัตกรรมจากกลุ่มคอมพิวเตอร์พีซีและพรินเตอร์อย่างไอดีดีไซน์ใหม่ สำหรับโน๊ตบุ๊คและเน็ตบุ๊คพร้อมฟังก์ชัน one-touch สำหรับพรินเตอร์ทุกรุ่น”

โดยงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010” ที่จัดขึ้นครั้งนี้เป็นหนึ่งใน 5 อีเวนต์หลักที่ทางซัมซุงจะจัดขึ้น เพื่อนำเสนอกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ทางธุรกิจในระดับภูมิภาคภายใต้กลยุทธ์ ผลิตภัณฑ์ในระดับโลก พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนและนำเสนอกลยุทธ์ริเริ่มใหม่ๆ ในกลุ่มดิจิตอล อิมเมจจิ้งและกลุ่มจอแสดงผล ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญที่ผลักดันให้ซัมซุงประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงใน ปีพ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา ด้วยรายได้รวมมูลค่ากว่า 117 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ พร้อมกำไรจากผลประกอบการทั้งปีที่ 9.4 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ นอกจากนี้ภายในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010” ซัมซุงยังได้เดินหน้าตอกย้ำพันธกิจ เพื่อสิ่งแวดล้อมผ่านการคิดค้นนวัตกรรมผลิตถัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างสรรค์ แนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในรูปแบบใหม่อีกด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ภายในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2010” ได้แก่ ฟู ลไลน์อัพเอชดี 3D ทีวี ที่เป็นการพลิกประสบการณ์ความบันเทิงแห่งอนาคตอีกระดับ เขย่าวงการด้วยครั้งแรกของเทคโนโลยี ความบันเทิงแบบ3มิติที่จะรองรับทุกอรรถรสด้วย 3D แอลอีดีทีวี 3D แอลซีดีทีวี 3D พลาสม่าทีวี เครื่องเล่นบลูเรย์ 3 มิติ โฮมเธียเตอร์ระบบ 3 มิติ แว่นตา 3 มิติ และ 3D คอนเทนต์ ซึ่งซัมซุงนับเป็นเจ้าแรกที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิงแบบสามมิ ติฟูลไลน์อัพได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

โดยในกลุ่มดิจิตอล อิมเมจจิ้ง ซัมซุงพร้อมสร้างเทรนด์การถ่ายภาพดิจิตอลด้วยดีไซน์ที่ได้รับ แรงบันดาลใจจากผู้บริโภคโดยตรงด้วยการแนะนำกล้องดิจิตอลและกล้อง วิดีโอรุ่นไฮไลต์ประจำปีนี้ได้แก่ EX1, WB 2000, HMX-U20 และ NX10 โดยกล้องดิจิตอลรุ่น EX1 เป็นกล้องถ่ายดิจิตอลขนาดกะทัดรัด ที่มาพร้อมฟังก์ชันการปรับความชัดลึกชัดตื้นของการถ่ายภาพทำให้สามารถถ่าย ภาพได้สวยแม้สภาพที่มีแสงน้อย WB2000 กล้องดิจิตอลที่มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ 2 รูปแบบในขณะเดียวกันให้บันทึกภาพนิ่งได้ในขณะเดียวกับการถ่ายวิดีโอ กล้องวิดีโอ U20 มีขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษพร้อมระบบบิวท์อิน ยูเอสบีทำให้การแชร์ภาพผ่าน YouTube เป็นเรื่องง่ายดายด้วยปุ่มคำสั่งเพียงปุ่มเดียว และในตลอดปีนี้ cและยังเตรียมเปิดตัวเลนส์ใหม่ 8 รุ่นสำหรับกล้องดิจิตอลไฮบริด NX10 เพื่อเพิ่มสีสันการใช้งานให้กับผู้บริโภคอีกระดับ

ไฮไลต์สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าโดดเด่นด้วยการมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้านที่สรรค์สร้างสภาพแวดล้อมให้สวยงาม โดยผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่โดดเด่นในปีนี้ ได้แก่ ตู้เย็นรุ่น TGV-10 TGV2-10 และ NW2-FDR ที่รวมสุดยอดดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ผสานเทคโนโลยี การให้แสงสว่างจากแอลอีดีที่ให้ทุกการใช้พลังานคุ้มค่ากว่าที่เคย เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Scout ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Bobble Care ช่วยปกป้องเนื้อผ้าที่ละเอียดอ่อนและซักได้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าเดิมเพื่อ การประหยัดพลังงานที่เพิ่มขึ้น ไมโครเวฟใหม่ล่าสุดรุ่น OmniPro และบิวท์อิน GEO มาพร้อมระบบเซนเซอร์ที่จัดเรียงการแผ่ความร้อนไว้อย่างดีเยี่ยมให้การทำ อาหารเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้สุดยอดระบบฟอกอากาศ Virus Doctor ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องปรับอากาศ Crystal Inverter
จากซัมซุงยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์เด่นของกลุ่มเครื่องใช้ฟ้าในบ้านที่จัด แสดงภายในงานนี้อีกด้วย

และอีกหนึ่งไฮไลต์เด่นของงานในครั้งนี้ได้แก่ สุดยอดผลิตภัณฑ์จากกลุ่ม ไอทีและจอแสดงผล ที่เน้นเจาะตลาดใหม่แห่งอนาคตด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่แห่งยุคอย่างมัลติฟังก์ชัน อี-บุ๊ค ที่สามารถทั้งอ่าน และเขียนข้อมูลได้ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อไวท์บอร์ดจากซัมซุงรุ่น 650TS ซึ่งเป็นจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาดใหญ่เครื่องแรกของซัมซุง พร้อมเผยจอแสดงผลรุ่นใหม่ล่าสุดได้แก่ ได้แก่ LED Pico Projector และจอมอนิเตอร์บางเฉียบ รุ่น PX2370 ที่ใช้แอลอีดีที่ให้อายุการใช้งานที่ยาวนานพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ พลังงานให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีเน็ตบุ๊ครุ่น N210 ที่ประกอบด้วยไอดีดีไซน์ใหม่ ‘inside pattern’ พร้อมรองรับการใช้งานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง โน๊ตบุ๊ค NB30 เด่นด้วยโครงสร้างทนทานสำหรับแอคทีฟ ไลฟ์สไตล์ ขณะที่โน๊ตบุ๊ก P Series เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้ธุรกิจด้วยเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนคลังอาวุธ ซึ่งประกอบด้วย ระบบปฏิบัติการ Capella จากอินเทล จอแอลซีดีแบคไลท์แอลอีดี 16:9 และโปรเซสเซอร์กราฟฟิค nVidia

นอกจากนี้ในปี 2010 นี้ ซัมซุงพร้อมนำเสนอพรินเตอร์อัจฉริยะ และใช้งานง่ายของซัมซุง ด้วยปุ่มสั่งงานเพียงปุ่มเดียวที่ช่วยขจัดความซับซ้อนและสร้างสรรค์การ ประหยัดพลังงานแบบใหม่ โดยเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำรุ่น ML-1660 และ ML-1665 ให้ความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 16 หน้าต่อนาที พร้อมทั้งเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยปุ่มสัมผัสเพียงครั้งเดียวและขนาดกะทัดรัด กว่าเดิมซึ่งทำให้เป็นพรินเตอร์ ที่มีขนาดเล็กที่สุดในตลาด โดยพรินเตอร์ของซัมซุงรุ่นนี้มีดีไซน์เพรียวบาง สีดำมันวาว เก๋ ดูมีสไตล์ และเคลือบเงาสีครีมเทา

“ซัมซุงเชื่อมั่นว่าความสำเร็จและการเติบโตเป็นอย่างสูงในเอเซียตะวันออก เฉียงใต้และโอเซียเนีย ที่สามารถกลายเป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการผลิตและการจำหน่ายในปีพ.ศ. 2552 ที่ผ่านมานั้น เป็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยในปีนี้ซัมซุงยังคงยืนหยัดเดินหน้าสานต่อเพิ่มประสบการณ์และความรู้สึก ชื่นชอบต่อแบรนด์ซัมซุงในกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยความโดดเด่นทั้งทางด้านดี ไซน์และการบริการที่เป็นเลิศ” นายมนาเทศกล่าวสรุป


ที่มา - http://www.samsung.com/

ซัมซุงเชิญชวนคนไทยทำความดีถวายในหลวงผ่านโครงการ “รักพ่อ 365 วัน”


2010-03-30
ร่วมเชิดชูพระอัจฉริยภาพแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ในฐานะ “พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก”
กลางภาพ
ซัมซุงเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ ในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 83 พระชนมพรรษา จัดโครงการ “รักพ่อ 365 วัน” รณรงค์ให้คนไทยร่วมสำนึกในพระกรุณาธิคุณจากพระราชกรณียกิจในฐานะ “พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก” เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนตลอด 63 ปีแห่งการครองราชย์ ผ่านการร่วมถวายพระพรออนไลน์และอัพโหลดรูปพระราชกรณียกิจผ่านทางเว็บไซต์ www.lovetheking365days.com พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษจำหน่ายสายคล้องคอและ พวงกุญแจ “รักพ่อ 365 วัน” ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นพิเศษแบบ Limited Edition นำรายได้ทั้งหมด ขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยต่อไป

นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ซัมซุงในฐานะบริษัทเอกชนไทย เราตระหนักดีว่าตลอด 63 ปี แห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระองค์เจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ท่านมิเคยที่จะหยุดทรงงาน เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนชาวไทยจนเป็นที่ประจักษ์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหา กษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก และเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 83 พรรษาในปีนี้ซัมซุงจึงได้จัดโครงการ “รักพ่อ 365 วัน” เพื่อเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมกันทำความดีเพื่อถวาย เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภายใต้แนวคิด “พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุด ในโลก”
โครงการ “รักพ่อ 365 วัน” เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ระหว่างมูลนิธิราชประชา- นุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสเฉลิมฉลองมหาสมัยครบรอบ 83 พระชนมพรรษา และ 63 ปี แห่งการครองราชย์ ผ่านการจัดนิทรรศการภาพและเผยแพร่ข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อาทิ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โครงการฝนหลวง โครงการชั่งหัวมัน หรือโครงการหลวงอ่างขาง เป็นต้น โดยจะมีการจัดนิทรรศการ "พระมหากษัตริย์ ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก" ให้ประชาชนทั่วไป ได้เข้าชมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่หายากของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯขณะที่ พระองค์ทรงงาน และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริต่างๆ เพื่อเป็นการร่วมรำลึกในพระราชกรณียกิจ ของพระองค์อันเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชนชาวไทย โดยนิทรรศการจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 21 มีนาคมนี้ ณ บริเวณแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
โครงการฯ ยังได้เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการโดยการเปิดให้ ผู้ที่สนใจร่วมส่งภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ผ่านการอัพโหลดทางเว็บไซ ต์www.lovetheking365days.com เพื่อรับรางวัลประกาศนียบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณจากมูลนิธิราช ประชานุเคราะห์ในพระบรม-ราชูปถัมภ์ฯ ภายใต้หัวข้อ “พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก” เพื่อสรรหาภาพพระบรมฉายา-ลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และรวบรวมเข้าน้อมถวายแก่สำนักพระราชวังเพื่อจัดเก็บและเผยแพร่ต่อไป สำหรับภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ท่านหรือครอบครัวเป็นผู้ถ่ายเอง หรือเป็น ผู้ครอบครอง ทั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่เคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ท่านหรือได้ มีโอกาสเก็บภาพของพระองค์ในโอกาสต่างๆ เพื่อร่วมเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ในฐานะ "พระมหากษัตริย์ที่ทรง งานหนักที่สุดในโลก" โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งภาพถ่ายเข้าร่วมโครงการได้ผ่านการอัพโหลดทางเว็บไซต์ www.lovetheking365days.com ตั้งแต่วันนี้จนถึง 5 พฤษภาคมศกนี้

นอกจากนี้ โครงการ “รักพ่อ 365 วัน” ยังได้จัดอีกกิจกรรมพิเศษเพื่อเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยการเป็นเจ้าของสายคล้องคอและ พวงกุญแจ “รักพ่อ 365 วัน” ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 83 พรรษา โดยสายคล้องคอและพวงกุญแจ”รักพ่อ 365 วัน” ได้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ (Limited Edition) เพียง 83000 เส้น มีทั้งหมด 3 สี คือ สีเหลือง สีชมพู และสีขาว จำหน่ายในราคาเส้นละ 99 บาท เพื่อนำรายได้ทั้งหมด ขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ซึ่งจะวางจำหน่าย ณ ร้านซัมซุงแบรนด์ช้อปและโมบายล์ช้อป ทุกสาขา ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และดิเอ็มโพเรียม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาท สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ภายใต้โครงการ “รักพ่อ 365 วัน” การเปิดตัวโครงการภายในงานยังมีกิจกรรมแฟชั่นโชว์ “สายคล้องคอและพวงกุญแจรักพ่อ 365 วัน” โดยเหล่าดารานักแสดงชื่อดังและซัมซุง แบรนด์แอมบาส- ซาเดอร์ อาทิ คริสติน่า อากิล่าร์, มาริโอ้ เมาเร่อ, เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารส, แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, อุ๋ม อาภาศิริ นิติพล, แม็ค AF6, ม.ล. กัลยกร เกษมศรี, ณเดช ทาคุมิ, มินท์ เพชรา และเชน Nice To Meet You เป็นต้น พร้อมเปิดประมูล“สายคล้องคอและพวงกุญแจรักพ่อ 365 วัน” ที่ออกแบบพิเศษโดย อรวรรณ อิงคสิทธิ์ ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์ โอลิเวีย ไดมอนด์ ร่วมด้วย มาริโอ้ เมาเร่อ และแม็ค AF6 เพื่อนำรายได้ทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศล
“ซัมซุงได้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตนในการเป็นองค์กรที่ดีและดำเนิน โครงการที่เป็นประโยชน์ ต่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนโครงการเพื่อสังคม การส่งเสริมความรักสามัคคี ให้เกิดแก่คนในชาติ รวมถึงการส่งเสริมให้ชาวไทยร่วมกันทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล กับโครงการ”รักพ่อ 365 วัน” ทั้งนี้ในนามของผู้จัดโครงการฯ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมแสดง ความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยการลงนามถวายพระพรและจุดเทียนออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.lovetheking365days.com เพื่อร่วมรำลึกในพระราชกรณียกิจของพระองค์” นายมนาเทศกล่าวสรุป

ที่มา - http://www.samsung.com/

วันอังคาร, เมษายน 20, 2553

Photo Rally เล่าเรื่องด้วยภาพ “บันทึกกรุงเทพฯ 25 ชั่วโมง”

Photo Rally เล่าเรื่องด้วยภาพ “บันทึกกรุงเทพฯ 25 ชั่วโมง” แคนนอนสนับสนุนกิจกรรมนิทรรศการ “ภาพถ่ายสารคดี บันทึก 25 ปีประเทศไทย” เนื่องในวาระครบ 25 ปี นิตยสาร สารคดี จะจัดกิจกรรมนิทรรศการ “ภาพถ่ายสารคดี บันทึก 25 ปีประเทศไทย” ขึ้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (ปทุมวัน) ระหว่างวันที่ 6-30 พฤษภาคม 2553 โดยในงานจะจัดให้มีการแข่งขันโฟโตแรลลี เล่าเรื่องด้วยภาพ “บันทึกกรุงเทพฯ 25 ชั่วโมง” ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 8-9 พฤษภาคม 2553

งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้รักการถ่ายภาพทุกท่านไม่ว่ามืออาชีพหรือมือสมัครเล่น ร่วมสนุกได้โดยไม่เสียค่าสมัครใดๆ พร้อมรับนิตยสาร สารคดี ฉบับครบ 25 ปี และเสื้อโฟโตแรลลี ฟรี

รางวัล
- รางวัลที่ 1 กล้อง Canon EOS 550 D-kit พร้อมโล่รางวัล
- รางวัลที่ 2 กล้อง Canon EOS 1000 D-kit พร้อมโล่รางวัล
- รางวัลที่ 3 กล้อง Canon IXUS 130 IS พร้อมโล่รางวัล
- รางวัลชมเชย 10 รางวัล รับสิทธิ์เป็นสมาชิกนิตยสาร สารคดี 1 ปี (12 ฉบับ) พร้อมเกียรติบัตร
- รางวัลยอดนิยม 1 รางวัล กล้อง Canon Power Shot G11 พร้อมเกียรติบัตร
ผู้ได้รับรางวัลทั้งหมดจะได้รับหนังสือรวมภาพถ่าย 25 ปี นิตยสาร สารคดี หมายเหตุ : ผู้ได้รับรางวัลมูลค่าเกิน 1,000 บาท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์
การสมัครเข้าแข่งขัน
ลงทะเบียนสมัครเข้าแข่งขันที่ www.sarakadee.com/photorally ระหว่างวันที่ 1-25 เมษายน 2553 รับสมัครจำนวนจำกัด 100 คน ถ้ามีผู้สมัครเกิน 100 คน จะใช้วิธีจับฉลากคัดเลือก แล้วแจ้งสิทธิ์การเข้าแข่งขันให้ทราบทางเว็บไซต์ และโทรศัพท์ติดต่อกลับไประหว่างวันที่ 26-30 เมษายน 2553
กำหนดการแข่งขัน
เสาร์ที่ 8 พฤษภาคม 2553
10.00-11.00 น. ลงทะเบียนเข้าแข่งขัน พร้อมจับสลากหัวข้อ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
11.00 -12.00 น. รับฟังกติกา
12.00 น. เริ่มต้นการแข่งขัน
อาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2553 12.00-13.00 น. ส่งผลงานภาพถ่ายตามกติกาการแข่งขัน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
(ปิดรับผลงานเวลา 13.00 น. ผู้ส่งผลงานหลังเวลา 13.00 น. ถือว่าสละสิทธิ์)
14.00-15.30 น. คณะกรรมการตัดสินรางวัล สารคดี โฟโตแรลลี ผู้เข้าแข่งขันร่วมกันตัดสินรางวัลยอดนิยม
16.00 น. ประกาศผลการแข่งขันและมอบรางวัล

กติกาการแข่งขัน  
คลิกที่นี่เพื่ออ่านกติกาการแข่งขัน



สอบถามรายละเอียดได้ที่
นิตยสาร สารคดี โทร. 0-2281-6110 ต่อ 115, 119 มือถือ 08-1696-3877 หรืออีเมล photorally25@sarakadee.com สนับสนุนการแข่งขันโดย

 --------------------------------------------------------------------------------
ที่มา   http://www.canon.co.th/pressroom/article.jsp?file=642&lang=TH

แคนนอน เปิดตัวที่สุดของกล้อง EOS D-SLR แห่งปี EOS 1D Mark IV

แคนนอน เปิดตัวที่สุดของกล้อง EOS D-SLR แห่งปี EOS 1D Mark IV ความเร็วสูงสุด 10 ภาพ/วินาที ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล กรุงเทพฯ – แคนนอนตอกย้ำความแรงประกาศความสำเร็จอีก ขั้นในฐานะผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์อันดับหนึ่งของเมืองไทย เผยโฉม EOS 1D Mark IV สุดยอดนวัตกรรมกล้อง DSLR รุ่นท็อปอันดับหนึ่งที่นักถ่ายภาพมืออาชีพทุกคนต่างรอคอย สมบูรณ์แบบที่สุดในบรรดากล้อง EOS ทั้งความเร็วในการบันทึกภาพ และถูกต้องความคมชัดของภาพ ด้วยประสิทธิภาพถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 เฟรมต่อวินาที ติดต่อกันสูงสุด 85 ภาพ พร้อมชิปประมวลผลอัจฉริยะ Dual Digic 4 และเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-H ระบบออโตโฟกัสฉับไวสูงถึง 45 จุด ให้ภาพละเอียดคมชัด 16.1 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวความเร็วสูง
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูมเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า กล้อง EOS 1D Mark IV เป็นนวัตกรรมล่าสุด จากแคนนอนที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถโดดเด่นยิ่งขึ้นในทุกๆ ด้านเพื่อการใช้งานของช่างภาพมืออาชีพโดยเฉพาะซึ่งให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับ คุณภาพของงานถ่ายภาพความละเอียดสูง
“กล้อง EOS 1D Mark IV เกิดขึ้นจากการนำคุณสมบัติเด่นจากกล้องระดับเดียวกันในรุ่นก่อนๆ ทั้ง Mark II และ Mark III ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในหมู่ผู้ใช้งานมาปรับปรุงใหม่และพัฒนา ต่อยอดให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยเน้นเพื่อตอบโจทย์ที่ยากที่สุดของการถ่ายภาพ คือ การถ่ายภาพวัตถุที่มีความเคลื่อนไวด้วยความเร็วสูง และต้องการเก็บรายละเอยดของภาพอย่างคมชัดครบถ้วน กล้อง EOS 1D Mark IV จึงอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูงสุดของแคนนอน ทั้งในด้านการค้นหา และจับโฟกัส การประมวลผลภาพให้รวดเร็ว การปรับสมดุลแสงและสีของภาพให้ถูกต้องไม่เพี้ยน เป็นต้น”
“ในฐานะผู้บุกเบิกนำตลาดและนวัตกรรมการถ่ายภาพชั้นนำของโลกซึ่งขณะนี้เรา ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอันดับ 1 ของกล้อง DSLR ในเมืองไทยอยู่ที่ 67 % แคนนอนเชื่อมั่นว่า EOS 1D Mark IV จะตอบโจทย์ความต้องการของนักถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดี และช่วยให้เราสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดนี้เอาไว้ได้” นายวรินทร์เสริม
ทรงประสิทธิภาพด้วยพลังแห่ง Digic 4 และเซนเซอร์ CMOS 16.1 ล้านพิกเซล EOS 1D Mark IV ทรงประสิทธิภาพภาพเหนือชั้นทุกมุมมอง ไม่ว่าจะถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยหรือจะรัวชัตเตอร์ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วย ความเร็วสูง ด้วยการทำงานของชิปอัจฉริยะ Dual Digic 4 และเซ็นเซอร์ CMOS รุ่นใหม่ออกแบบพิเศษขนาด APS-H ความละเอียดสูงถึง 16.1 ล้านพิกเซล และการออกแบบ micro lens ที่แนบสนิทไม่มีช่องว่าง ภาพที่ได้จึงมีความละเอียดสูงคมชัดทุกรายละเอียด และมีสีสันเป็นธรรมชาติ ไร้สัญญาณรบกวนภาพ
ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง 10 เฟรมต่อวินาที จุดเด่นของ EOS 1D Mark IV คือความรวดเร็วในการถ่ายภาพและประมวลผลภาพ โดยสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงและแม่นยำสูงถึง 10 เฟรมต่อวินาที ติดต่อกันสูงสุดถึง 85 ภาพในฟอร์แมท JPEG/Large พร้อมพัฒนาช่วงความไวแสงให้ปรับได้กว้างสูงสุดเหนือกว่ากล้องโปรรุ่นใดใน ตระกูล EOS อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนที่ ISO 50 – 102,400 โดยมีช่วงความไวแสงปกติอยู่ที่ ISO 100-12,800 รวมถึง UDMA mode 6 ทำให้การโอนถ่ายข้อมูลภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย
ทุกรายละเอียดคมชัด แม้วัตถุเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง เพิ่มความแม่นยำสูงสุดในการบันทึกภาพ ด้วยเซ็นเซอร์ออโต้โฟกัส 45 จุด โดยในจำนวนนี้เป็นออโต้โฟกัสแบบ Cross-Type ถึง 39 จุด พร้อมระบบวัดแสงครอบคลุม 63 โซนที่ทำงานแม่นยำให้สภาพแสงที่สวยงาม พร้อมใช้งานแม้เป็นเลนส์ที่มีรูรับแสงสูงสุด f/4 ขณะที่ระบบ AI Servo ใหม่ช่วยปรับความคมชัดติดตามวัตถุเคลื่อนไหวได้แม่นยำคมชัดยิ่งขึ้น ใช้งานได้หลากหลายด้วยฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสใหม่ที่ปรับแต่งได้ตามใจ มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Live View ใหม่ เลือกปรับระบบออโต้โฟกัสได้ 3 แบบ คือ Live Mode, Face Detection และ Quick Mode
ครบครันทุกการใช้งานด้วยฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอระดับ Full HD เพราะโอกาสพิเศษเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา ให้กล้อง EOS 1D Mark IV ช่วยเก็บภาพความทรงจำแสนประทับใจนั้นไว้ด้วยฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอความ ละเอียดสูงใหม่สามารถตั้งค่าความคมชัดได้ 3 ระดับได้แก่ Full HD ขนาด 1920x1080 เลือกปรับเฟรมเรทได้ 3 ระดับตั้งแต่ 24p, 25p และ 30p ให้ภาพละเอียดคมชัด สีสันสดใสเช่นเดียวกับฟิล์มภาพยนตร์ไม่แพ้กล้องวิดีโอดิจิตอลทั่วไป และด้วยประสิทธิภาพถ่ายภาพความเร็วสูง 60 เฟรมต่อวินาทีทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดเสี้ยววินาทีสำคัญแม้เป็นภาพเคลื่อนไหวความ เร็วสูง เช่น การแข่งขันกีฬา ก็ยังได้เก็บภาพได้ทุกรายละเอียดแม้จะอยู่ในโหมด HD Ready ขนาด 1280x720 และโหมด Standard ขนาด 640x480 พิกเซล
กล้องรุ่นใหม่ยังช่วยให้ผู้ใช้สนุกกับการถ่ายทอดช่วงเวลาประทับใจได้หลาก หลายรูปแบบ คล่องตัวทุกสถานการณ์สำคัญเพราะผู้ใช้สามารถถ่ายภาพนิ่งได้อย่างง่ายดาย ระหว่างบันทึกภาพวิดีโอ ขณะที่ตัวกล้องมีช่องเชื่อมต่อ HDMI สำหรับเปิดรับชมภาพวิดีโอความละเอียดสูงสุดบนจอโทรทัศน์ HD และจอภาพทั่วไป
ภาพคมชัดใช้งานง่าย
EOS 1D Mark IV ใหม่ยังโดดเด่นด้วยหน้าจอแอลซีดี ClearView II พัฒนาใหม่แสดงภาพละเอียด ไล่สีสันสดใสเหมือนจริงยิ่งขึ้น 920,000 พิกเซล พร้อมแก้ปัญหาแสงสะท้อนมองเห็นภาพชัดเจนด้วยผิวเคลือบจอใหม่ผลิตจากพลาสติก เสริมแรงด้วยใยแก้วแทนการใช้อะคริลิก จึงเหมาะกับการใช้งานทุกสถานที่แม้อยู่ภายใต้แสงแดดจัด กล้องระดับโปรรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังมาพร้อมระบบทำความสะอาดเซนเซอร์อัจฉริยะ (EOS Integrated Cleaning System) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ทำหน้าที่กำจัดฝุ่นบนเซนเซอร์อัตโนมัติโดยใช้ระบบสั่นสะเทือนแบบอุลตราโซนิค และติดตั้งโปรแกรม Dust Delete Function กำจัดฝุ่นผงที่หลุดออกยากด้วยการจดจำตำแหน่งและขนาดของฝุ่นแล้วนำข้อมูลนี้ ไปปรับแต่งลบเงาฝุ่นบนภาพออกโดยอัตโนมัติ

สนุกไร้ขีดจำกัดไปกับทุกจินตนาการ กล้อง EOS 1D Mark IV ยังครบครันด้วยคุณลักษณะการใช้งานหลากหลาย ช่วยเสริมทักษะการถ่ายภาพของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Auto ISO ใหม่ เลือกปรับค่าความไวแสงอัตโนมัติจากการวิเคราะห์สภาพแสงขณะใช้งาน ร่วมกับระบบ Auto Lighting Optimizer ปรับปรุงใหม่ซึ่งจะช่วยปรับแสงอัตโนมัติ ทำให้ภาพดูสว่างสดใสแม้อยู่ในที่มืด ผู้ใช้สามารถเลือกปรับได้ 4 โหมด คือ Standard, Strong, Weak และ None หรือจะเปิดเลือกควบคุมระบบแมนนวลก็ทำได้อย่างอิสระ
พร้อมฟังก์ชั่น Lens Peripheral Illumination Correction ในตัว แก้ปัญหาเรื่องแสง สี หรือความผิดเพี้ยนที่เกิดจากคุณสมบัติของเลนส์ชนิดต่างๆ ที่ใช้โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ยังสามารถระบุชื่อเจ้าของภาพไว้ในไฟล์ภาพป้องกันการโจรกรรมด้วยฟัง ก์ชั่น Copyright info ที่ติดตั้งมาพร้อมกัน และยังรองรับอุปกรณ์เสริมควบคุมระบบไร้สายจึงสะดวกต่อการถ่ายโอนข้อมูลรูป ภาพดิจิตอล
พบกับกล้องดิจิตอล SLR รุ่น EOS 1D Mark IV ราคา 149000 บาท (เฉพาะตัวกล้อง) รุ่นใหม่ล่าสุดจากแคนนอนได้ที่ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แคนนอนทั่วประเทศ วันนี้


ที่มา: http://www.canon.co.th/pressroom/article.jsp?file=632&lang=TH

วันศุกร์, เมษายน 09, 2553

คอมแฮงบ่อย ต้องทำอย่างไร

เคยไหมที่คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ดีๆ กลับมีอาการแปลกๆ  แฮงค์บ่อย (แฮงค์ คืออาการที่คอมพิวเตอร์นั้นค้างไม่สามารถทำอะไรได้)  และบางครั้งอยู่ดีๆ เครื่องก็ดับไปเฉยเลย  แล้วก็บูทขึ้นมาใหม่เอง  หรือไม่ก็ดับไป  หรือบางครั้งมันพยายามบูทขึ้นมาใหม่แต่มันก็ไม่ติด  เราจะต้องครวจสอบแล้วว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร

อันดับแรกแนะนำให้ตรวจหาไวรัสก่อนเลย  เพราะถ้าเกิดจากตัวนี้มันแสนเศร้า  ให้หาโปรแกรมแอนตรี้ไวรัสเจ๋งๆ มาไว้จับเจ้าตัวไวรัส  ไว้ให้เราทุบหัวมันเล่น ที่ผมใช้ก็เป็น nod32 ก็เป็นโปรแกรมที่เขาใช้กันทั่วไป  โปแกรมแอนตรี้ไวรัสจะต้องอัพเดทบ่อยๆ  หรือทุกวัน