วันศุกร์, กันยายน 28, 2555

AMD ให้บริการ Android app บน Win 8




[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] อีกไม่ถึงเดือน Windows 8 ก็จะได้ฤกษ์เปิดตัวกันแล้ว และถ้าคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip กำลังสนใจที่จะหาซื้อ แท็บเล็ต วินโดวส์ 8 ประเด็นที่หลายคนกังวลก็คือ แล้วมันจะมีแอพฯดีๆ น่าใช้ให้เลือกได้มากพอ หรือไม่? ซึ่งปัจจุบันไมโครซอฟท์ได้ทำการจัดเตรียมแอพฯ ไว้ประมาณ 2,000 รายการ เพื่อต้อนรับโอเอสใหม่ทีมาพร้อมระบบสัมผัสไว้แล้ว

 แต่หากเทียบกับแอพฯ บน iOS และ Android ที่มีมากกว่า 600,000+ รายการ ก็เรียกได้ว่า คนละโลกกันเลย แต่ถ้าคุณต้องการใช้แอพฯ พวกนี้บน Windows 8 บ้างล่ะ? คำตอบก็คือ การใช้ซอฟต์แวร์ของ Bluestack ซึ่งสามารถทำให้คุณเข้าถึงแอพฯ บนแอนดรอยด์ได้ตั้งแต่เกมส์ไปจนถึงแอพฯ ใช้งานต่างๆ โดยไม่ขึ้นอยู่กับว่า ฮาร์ดแวร์ทีใช้ต้องเป็นแท็บเล็ตจาก Intel หรือ AMD อย่างไรก็ตาม ล่าสุด AMD ได้ร่วมมือกับ BlueStacks ในการพัฒนา AMD AppZone Player ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้โหลดแอพฯ บนแอนดรอยด์มากกว่า 500,000+ รายการขึ้นมารันบน Windows 8 ได้อย่างง่ายดาย แถมแอพฯ ที่เหล่านี้ยังได้รับการปรับแต่งการทำงานให้เหมาะกับเทคโนโลยีการประมวลผล กราฟิก GPU และ APUของ AMD อีกด้วย


ไอเดียของ AMD ในครั้งนี้ถือว่าก้าวล้ำกว่า Intel ไปอีกขั้นหนึ่งสำหรับการเข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นเรื่องยากเลยสำหรับการใช้แท็บเล็ต Intel เพื่อดาวน์โหล BlueStacks app และติดตั้งมันเข้าไปในเครื่อง ซึ่งก็สามารถโหลดแอนดรอยด์แอพฯ มาเล่นได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า แอนดรอย์แอพฯ บน Windows 8 ที่รันผ่าน BlueStacks จะมีลักษณะเป็นอย่างไร? จะเข้าไปอยู่ใน UI ของโอเอสใหม่ของไมโครซอฟท์แบบเนียนๆ หรือเข้าถึงและสั่งรันผ่านเดสก์ทอป ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไป อย่างไรก็ดี การพัฒนา AppZone Player ของ AMD ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้แท็บเล็ตที่ ใช้ชิปของทางบริษัท แม้ความพยายามนี้จะยังมีจุดอ่อนให้เห็นอยู่ค่อนข้าง ชัดเจนก็ตาม

ข้อมูลจาก :  ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

ดึงไฟล์จาก iPad ใส่คอมพ์ โดยไม่ต้องส่งทางเมล์

ดังคำคมที่เขาบอกว่าเจอปัญหาแล้วปัญญาจะมี ซึ่งก็เป็นจริงเพราะจากปัญหานี้เองเลยทำให้ต้องหาทางแก้ และนี่ก็เลยกลายเป็นอีกหนึ่งทิปที่นำมาฝากกันในวันนี้ โดยเทคนิดนี้สามารถส่งไฟล์ได้โดยไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ต แถมยังสามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่แค่ไหนก็ได้

1. เริ่มต้นก็เปิดไฟล์พรีเซนเตชันในเครื่อง iPad ผ่านโปรแกรม Keynote จากนั้นก็เลือกส่งไฟล์ไปที่ iTunes
2. จากนั้นก็นำ iPad เสียบต่อเข้ากับคอมพ์ รอจนโปรแกรม iTunes เปิดขึ้นมาเรียบร้อย
3. ใน กรอบทางขวาซึ่งแสดงรายละเอียดที่เก็บข้อมูล ให้คลิกที่ iPad ของเรา (เช่น  iPad-mink) จากนั้นให้เลือกแท็บ Apps ในกรอบเดียวกันให้เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอชื่อแอพฯ เอกสารต่างๆ เช่น Keynote เลือกไฟล์ที่ต้องการ คลิกปุ่ม Save to




ข้อมูลจาก: ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

วันจันทร์, กันยายน 24, 2555

Google Penguin คืออะไร

สำหรับผู้ที่ทำ SEO คงจะรู้จักกับเจ้า "เพนกวิน"  กันแล้วนะครับว่ามันเป็นอัลกอริธึมตัวใหม่ของกูเกิล ที่ทางกูเกิลได้ส่งมาจัดการกับเว็บสแปม เว็บขยะทั้งหลายแหล่  โดยเฉพาะเว็บที่มีการทำสแปมลิงค์ต้องปวดหัวกะเจ้าเพนกวินแน่ๆ  ยิ่งมาเป็นคู่หูกับ "แพนด้า" มันยิ่งน่ากลัวไปกันใหญ่  แต่ถ้าหากเราไม่ได้ทำผิดยังเล่นตามเกมอยู่ก็สบายใจได้ครับ อย่าเพิ่งไปกังวล  แต่ถ้าโดนล่ะก็อันดับร่วงเป็นร้อย  แก้กันยากด้วยแต่ก็พอมีทางแก้อยู่ครับ

มาดูกันว่าเว็บจำพวกไหนเข้าข่ายที่จะโดน เพนกวิน ยิงร่วงไปอยู่อันดับท้ายๆ กันบ้าง

- เว็บที่มีการสแปมลิงค์มากเกินไป คือเว็บที่ทำ SEO โดยการโยนลิงค์เข้าไปจำนวนมาก เพราะว่าแต่ก่อนเว็บไหนมีลิงค์เยอะก็จะอยู่ในอันดับต้นๆ ของ search engine แต่ตอนนี้เว็บพวกนี้เป็นที่จับตามองของ เพนกวิน

- เว็บที่มีการทำ SEO มากเกินไป เว็บที่ทำ Black Hat SEO จงรีบแก้ซะ ก่อนโดนเล่นงาน

 Black Hat SEO คือ
  1. Spam Keyword   คือ การใส่คีย์เวิร์ดซ้ำๆ ในหน้าเพจเพื่อให้โปรแกรม Robot รู้ว่าในหน้าเว็บนั้นพูดถึงเรื่องอะไร ซึ่งทางกูเกิลก็สามารถตรวจจับได้ว่ามีการแสดงคำๆ นั้นในหน้าเพจกี่เปอร์เซ็นต์ หากเกิน 10%  ละก็โดนเล่นงานแน่นอนครับ  แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเพจของเราใส่คีย์เวิร์ดเยอะเกินไปรึเปล่า โปรแกรท Keyword Density Analyzer Tool สามารถช่วยคุณได้ เข้าไปลองใช้งานได้ที่ www.ranks.nl/tools/spider เครื่องมือนี้จะบอกได้เลยว่าเราใส่คีย์เวิร์ดไปเท่าไหร่ สามารถใช้กับคีย์ภาษาไทยด้วย

  2. Hidden Text  คือการใส่คีย์เวิร์ดลงไปในเพจนั้นเป็นจำนวนมาก คล้ายกับข้อแรก แต่จะซ่อนไว้ให้เป็นสีเดียวกับพื้นหลัง ซึ่งผู้เข้าชมเว็บจะมองไม่เห็น จะเห็นแต่โรบอทเท่านั้น แต่ถ้าท่านผู้เข้าชมอยากเห็นละก็ให้ท่านสังเกตบริเวณพื้นหลังที่ว่างๆ ว่ามีส่วนไหนผิดปกติ ให้ท่าน Drag Mouse คลุมบริเวณนั้น หากมีการซ่อนคีย์เวริดก็จะปรากฏตัวอักษรขึ้นมา

  3. Doorway Page  คือ ประตูทางผ่านเข้าหน้าเว็บ คิดว่าหลายท่านคงเคยเจอมาแล้วนะ แบบว่าเวลาเราพิมพ์ Url ของเว็บเข้าไป แต่กลับไปเจอเว็บที่มีคีย์เวิร์ดเต็มไปหมด ก่อนที่จะเจอเว็บไซต์หลักจริงๆ

  4. Cloaking Page  คือ การหลบซ่อน เป็นที่นิยมกันอย่างมากในการทำ Black Hat SEO แต่การทำ Cloaking จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเว็บไซต์พอสมควร เป็นการทำให้โรบอทที่เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บไซต์นั้นไปอีกทางหนึ่ง  กล่าวง่ายๆ คือ จะแยกเพจที่แสดง กับเพจที่โรบอทเข้ามาเก็บข้อมูล ซึ่งเพจที่โรบอทได้รับนั้นเป็นเพจที่ได้มีการจัดทำ Keyword Stuffing ไว้เรียบร้อยแล้ว   ส่วนเพจที่แสดงก็เป็นเพจปกติที่เห็นกันทั่วไป    หากใครที่รู้เรื่องภาษา HTML ก็คงจะเข้าใจ เพราะมันเป็นการใช้ Code คำสั่ง


การลงโทษของเพนกวิน 
   ถ้าร้ายแรงที่สุด เว็บที่ทำ OVER SEO มากๆ โดนปรับอันดับลง 100+ แต่ถ้านิดหน่อย ก็อาจจะลดไปสัก 4-5 หน้า แต่ก็ระบุแน่ชัดไม่ได้นะครับเพราะนี่แค่คาดการณ์  จริงๆ มันอาจจะเลวร้ายกว่านี้ก็เป็นได้  แต่ที่แน่ๆ เลย อันดับของเว็บจะขยับไปมาตลอด และ กูเกิล ก็จะเปลี่ยนหน้าโชว์ทุกครั้ง  รู้แล้วร้อนๆ หนาวๆ กันเลย


มาดูวิธีแก้หากโดนเล่นงาน
*จัดการแก้ตามลำดับเลย

1. ยกเลิกการทำลิงค์เข้าเว็บ
2. เว็บที่ทำ Over SEO ต้องไปตามถอดลิงค์ที่เคยทำไว้  เอาออกให้ได้มากที่สุด แต่ต้องเนียนๆ หน่อยไม่ใช่ตามถอดออกทีเดียวเป็นร้อย อันนี้ก็อาจโดนแบนแบบไม่ได้ผุดได้เกิด  ต้องค่อยๆ ถอดวันละ 10-20 ก็พอ  แล้วบางคนอาจจะงง ว่าจะไปตามถอดลิงค์ที่ไหน ก็ตามเว็บประกาศ เว็บบอร์ดที่คุณได้โพสต์ไว้
3. เพิ่มบทความที่มีคุณภาพ ลงไปในเว็บของคุณ
4. เอาเว็บเข้า Google Webmaster Tools แล้วรอให้ทางกูเกิลเข้าไปเก็บข้อมูล เดี๋ยวหน้า Index เราก็กลับมา
แต่ต้องทำใจร่มๆ ไว้นะครับ  อับดับที่กลับมาอาจไม่เหมือนเดิม สิ่งที่สำคัญคือ หากมีบทความที่มีคุณภาพมากพออันดับต้นๆ คงไต่ขึ้นได้ไม่ยาก...