วันอังคาร, เมษายน 26, 2554

Nexus S vs iPhone 4 มาดูซิ..อะไรจะดีกว่า?

จากที่ทาง แอปเปิ้ลได้ส่ง "iPhone 4" ลงมาบุกตลาดสมาร์ทโฟนซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสาวกโดยมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้



1. หน้าจอและหลังเครื่องเป็นกระจกทนทานพิเศษ อลูมิโนซิลิเกต ซึ่งให้ความแข็งแกร่งเป็น 30 เท่าของพลาสติกทั่วไป  จอตัวใหม่นี้จะเคลือบด้วยวัสดุ ต้านน้ำมันและไขมัน หรือที่เรียกว่ามีความสามารถแบบไลโปโฟบิค
2. ขอบเครื่องทำจากสเตนเลสรอบเครื่องซึ่งแข็งแกร่งทนรับแรงกระแทกได้สูง และขอบรอบเครื่องนี้ ทาง Apple บอกว่ามีหน้าที่พิเศษคือเป็นเสาสัญญาณโทรศัพท์, GPS, Wifi, Bluetooth ในตัวด้วย และนี้คือส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขนาดโทรศัพท์ให้เล็กลงเหลือบาง 9.3 มม (iPhone 3GS หนา 12.3 มม) และกว้าง 58.6 มม (3GS กว้าง 62.1 มม) แต่เพิ่มสเปคได้มากขึ้น ในขณะที่น้ำหนักและความสูงเครื่องยังคงเดิม
3.  iPhone 4 จอภาพละเอียดสูง 960×640 พิกเซล ซึ่งเกือบเท่าจอภาพในคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊คทั่วไป
4. กล้องได้รับการปรับสเปคเพิ่มเป็น 5 ล้านพิกเซล ซูมได้ 5 เท่า มีออโต้โฟกัส มีแฟลช LED และสามารถถ่ายวีดีโอ HD 720p ได้ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์บริเวณกล้องเพื่อตรวจจับแสงก่อนปรับแสงอัตโนมัติโดยเฉพาะในที่แสงน้อย
5. iPhone 4 นี้มีกล้องตัวที่สองอยู่บริเวณหน้าจอโทรศัพท์ 
6. iPhone 4 ได้เพิ่มความเร็วการทำงานทั้งทั่วไปและกราฟฟิคด้วยชิพโปรเซสเซอร์ความเร้วเกือบเท่ากับที่ใช้ในเครื่อง iPad ซึ่งเร็วกว่าในตัว 3GS ประมาณเท่าตัว


เมื่อไม่นานมานี้ทาง google ก็ได้ส่งสมาร์ทโฟนตัวที่สองออกสู่ตลาด ชื่อว่า Nexus S   โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้


การเชื่อมต่อ

  • Quad-band GSM: 850, 900, 1800, 1900
  • Tri-band HSPA: 900, 2100, 1700
  • ชนิด HSPA: HSDPA (7.2Mbps) HSUPA (5.76Mbps)
  • Wi-Fi 802.11 n/b/g
  • Bluetooth 2.1+EDR
  • Near Field Communication (NFC)
  • Assisted GPS (A-GPS)
  • microUSB 2.0

จอแสดงผล

  • 4.0" WVGA (480x800)
  • จอแสดงผลแบบกระจกโค้ง
  • Super clear LCD 16 ล้านสี
  • 335 ppi
  • เซ็นเซอร์รับสัมผัสแบบ Capacitive
  • จอกันรอยนิ้วมือ

โปรเซสเซอร์และหน่วยความจำ

  • 1GHz Cortex A8 (Hummingbird) processorSamsung
  • หน่วยความจำแฟลช 16GB iNAND

กล้องและมัลติมีเดีย

  • ด้านหลัง: 5 เมกะพิกเซล (2560x1920)
  • ความละเอียดวิดีโอ 720 x 480
  • H.264, H.263, DivX, MPEG4, WMV เล่นวิดีโออีกครั้ง
  • 720 x 480, H.263, 30fps บันทึกวิดีโอ
  • โฟกัสอัตโนมัติ
  • แฟลช
  • ด้านหน้า: VGA (640x480)

ซอฟต์แวร์

  • Android 2.3 (Gingerbread)
  • Android Market



เรามาดูข้อเปรียบเทียบกันว่า Nexus S   or  iPhone 4  สามารถใช้งานได้ดีกว่า....








credit :  ข้อมูล iPhone 4  http://phone-d.com/2010/06/09/436/
            ข้อมูล Nexus S  http://www.google.co.th/nexus/tech-specs.html#
            video  http://www.youtube.com/embed/L3E2QVgxjCk

Test 4 Browser, IE 9 vs Chrome vs Firefox vs Opera

มาดูกันซิว่า...  IE 9  vs Chrome vs Firefox vs Opera  ทั้ง 4 เบราว์เซอร์นี้ตัวไหนเร็วกว่ากัน





จากการทดสอบให้เห็นพร้อมกันทั้ง 4 เบราว์เอร์ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันของแต่ละเบราว์เซอร์ 


credit : www.youtube.com 

วันศุกร์, เมษายน 22, 2554





สำหรับ Internet Explorer 9 บน Windows Phone 7 คาดว่าน่าจะมาพร้อมกัน หรือก่อนหน้าการอัพเดทครั้งใหญ่ของระบบปฏิบัติการที่ใช้โค้ดเนมว่า "Mango" โดย IE9 บน WP7 จะสนับสนุน HTML5 พร้อมด้วยดีไซน์ส่วนการใช้งาน (UI) ใหม่ด้วยการวางตำแหน่งของ address bar ไว้ทีด้านล่างของหน้าจอ (ลดระยะเวลาที่ผู้ใช้จะต้องกวาดสายตาไปด้านบนหน้าจอ เช่นเดียวกับการแจ้งเตือนบน IE9 ที่วางไว้ด้านล่าง) ซึ่ง Microsoft กล่าวว่า IE9 บน WP7 จะสามารถแสดงผลหน้าเว็บ ตลอดจนโต้ตอบการทำงานได้เร็วกว่า Safari บราวเซอร์บน iOS และเช่นเดียวกับ IE9 เวอร์ชันบนเดสก์ทอป ในส่วนของเวอร์ชันบน WP7 จะมีการใช้ประโยชน์จากความสามารถในการเร่งการแสดงผลกราฟิกบนฮาร์ดแวร์ (hardware acceleration) ด้วย ซึ่งเป็นหมัดเด็ดที่ MS จะใช้สอยบราวเซอร์คู่แข่งบนสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ IE9 บน WP7 ยังจะมาพร้อมกับคุณสมบัติในการแชร์ผ่านไมโครบล็อกอย่าง Twitter ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Twitter จะรวมการทำงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Windows Phone 7 ด้วย อย่างไรก็ดี เชื่อว่า เมื่อถึงวันที่ IE9 บน WP7 เปิดตัว เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กันอีกครั้งอย่างแน่นอน


ข้อมูลจาก - ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

รั่ว!!! สเป็กสมาร์ทโฟน WP7 ของ Nokia

แหล่งข่าวอ้างว่า Nokia กำลังเตรียมความพร้อมในการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นทีมาพร้อมกับ Windows Phone 7 โดยใช้ชื่อ Nokia W7 และ W8 ซึ่งสเป็กในรุ่น W7 จะหยิบยืมดีไซน์ และคุณสมบัติมาจาก Nokia X7 โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงความละเอียด WVGA ชิปเซต Qualcomm QSD8250 ระบบปฎิบัติการที่ใช้จะเป็น Windows Phone 7 พร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล คาดสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะวางตลาดในช่วงปลายปี 2011 
ส่วน Nokia W8 จะคล้ายกับสมาร์ทโฟนรุ่น Nokia N8 โดยมาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ Qualcomm และชิปกราฟิกเป็น Adreno 320 GPU กล้องที่มากับ W8 จะมีความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล ซึ่งกำหนดการวางตลาดจะเป็นช่วงต้นปี 2012 สำหรับรายงานข่าวที่รั่วออกมายังระบุอีกด้วยว่า Nokia เปลี่ยนใจไม่พัฒนาฮาร์ดแวร์ให้ตรงกับข้อกำหนดของ Windows Phone 7 อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ทางบริษัทสามารถควบคุมการออกแบบ คุณสมบัติของเครื่อง ตลอดจนการปรับแต่งการทำงานได้ยืดหยุ่นกว่า นั่นหมายความว่า ทีมพัฒนา WP7 ก็จะต้องปรับแต่งโอเอสให้ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของ Nokia ด้วยนั่นเอง

นอกจากจะข่าวรั่วเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน WP7 ถึง 2 รุ่นแล้ว Nokia ยังเตรียมออกสมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Symbian รุ่นใหม่ โดยรุ่นหนึ่งจะมีหน้าตาคล้าย E6 ที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส คีย์บอร์ด QWERTY และเคสโลหะ สำหรับสมาร์ทโฟนอีกรุ่นหนึ่งจะเป็น W7 ที่มีราคาถูกกว่า โดยจะใช้สเป็กเครื่องต่ำกว่า และวัสดุที่ใช้ทำเคสถูกกว่า 




ข้อมูลจาก -
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

วันเสาร์, เมษายน 16, 2554

ถ่ายวีดีโอคุณให้เป็นคลิป "การ์ตูน" ด้วย iPhone

App ที่ว่านั้นมีชื่Cartoonatic Icon - AppStoreอตรงๆตัวว่า Cartoonatic (สามารถโหลดได้ฟรีที่AppStore) ซึ่ง App ตัวนี้ มีความสามารถสุดเจ๋ง คือ สามารถแปลงภาพจากกล้องของ iPhone ของคุณ ให้กลายเป็นภาพคล้ายลายเส้นการ์ตูน, ลายเส้นดินสอ หรือ การ์ตูนจากหนังสือได้แบบสดๆ คือสามารถมองภาพจากหน้าจอ iPhone และเห็นเป็นภาพวีดีโอที่จะออกมาจริงๆพร้อมๆกับที่คุณกดบันทึกวีดีโอไปด้วย
นอกจากนั้นภาพวีดีโอที่ถ่ายทำ ยังสามารถเพิ่มเสียงเพลงประกอบ เพื่อความสนุกของวีดีโอได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งโปรแกรมตัดต่อ ทำให้เหมาะกับการถ่ายวีดีโอนอกสถานที่แล้วจากนั้นก็โพสแชร์ผ่าน twitter, facebook, youtube หรือ ส่งเข้าอีเมล์ ได้ทันที และหากต้องการเวอร์ชั่นที่มีความสามารถยิ่งขึ้น ก็สามารถจ่ายเพิ่มเติมได้ในราคา 0.99 เหรียญครับ (ประมาณ 35 บาท) ซึ่งจะมาพร้อมกับ effect ให้เลือกใช้อีก 3 แบบ รวมไปถึงการถ่ายภาพนิ่งและไม่มีโฆษณามารบกวนสายตาอีกด้วย
Cartoonatic - AppStore


ที่มา 
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์

ดาวน์โหลด "วอลล์เปเปอร์ฟรี"

ข่าวไอที 16 เมษายน 2554

เอไอเอส ปะทะ ทรูมูฟ โหมศึก “ไวไฟ” ก่อน “3G”



       *กรุ่นไอศึกสงครามมือถือ “เอไอเอส” รุก “ทรูมูฟ”
        *เปิดสมรภูมิรบใหม่บนกระดานบริการไวไฟ
        *งานนี้เพียงโหมโรงเรียกแขกก่อนศึกใหม่ปะทุ
        *“3G” เกิดเมื่อไรสงคราม 3 ค่าย 3 ก๊กเกิดแน่

     
       สมรภูมิไว-ไฟบนมือถือคึกคักสุดสุด หลังพี่เบิ้ม “เอไอเอส” ออกสตาร์ททำตลาดไปก่อนหน้า ด้วยการควงแขนยักษ์บรอดแบนด์ “3BB” เสิร์ฟบริการไว-ไฟบนมือถือ ที่ให้ความเร็วสูงถึง 4 เมกะบิต ทำเอาเจ้าตลาด “ทรูมูฟ” นั่งไม่ติด ต้องออกโรงแก้เกมเป็นการด่วน พร้อมจัดเต็มให้สปีดทีเดียว 8 เมกะบิต หวังสร้างความแตกต่าง เสริมประสบการณ์ลูกค้าใช้งานเต็มเหนี่ยว
     
       จากการแพร่หลายของดีไวซ์ใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไร้สายได้อย่างง่ายได้ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และคาดกันว่าจะมีการทยอยเปิดตัวอย่างคึกคักในช่วงปีนี้ทั้งปี ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนคึกคักเท่านั้น แต่ยังทำให้บริการนอนวอยซ์ โดยเฉพาะการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงมีอัตราการเติบโตพุ่งพรวดตามไปด้วย     อ่านต่อ





“ชเว ซีวอน” เกมรบ สมาร์ทโฟน “เอเซอร์”



 ถึงวินาทีนี้สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นอุปกรณ์ฮอตฮิตติดลมบน แต่ในแง่การแข่งขันถือว่าสมาร์ทโฟนเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ทุกแบรนด์จึงมีสิทธิ์จะครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งเท่าๆ กัน อยู่ที่ว่าเกมการตลาดใครจะเด็ดโดนหัวใจผู้บริโภคมากกว่ากัน
      
        เกมสมาร์ทโฟนนี้เอเซอร์หยั่งลึกถึงหัวใจอย่างดีว่า ในตลาดคอมพิวเตอร์เอเซอร์เป็นแบรนด์เบอร์ 1 ที่ครองส่วนแบ่งตลาดทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น แต่สำหรับตลาดสมาร์ทโฟน ที่คนส่วนใหญ่มองเป็นมือถือ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ เอเซอร์ยังใหม่มาก เพราะฉะนั้นปีกระต่ายนี้เอเซอร์จึงต้องให้น้ำหนักกับการทำตลาดอย่างหนัก
      
        นั่นเพราะเอเซอร์ตั้งเป้าหมายที่จะขอส่วนแบ่งเป็น 1 ใน 3 ของตลาดสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์ หรือประมาณ 15% จากตลาดรวมสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่คาดกันว่าจะมีประมาณ 7 แสนเครื่อง
      
        “สมาร์ทโฟนยังเติบโตได้อีก และจะเติบโตแบบก้าวกระโดด นับจากมี 3G ใน 3 ปี ยอดขายจะแซงหน้าโน้ตบุ๊ก โดยปัจจุบันเอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาดเป็น 1 ใน 5 ของตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์”   


      
อ่านต่อ





ชุมชนเกมไร้ขีดจำกัด นิวโมเดลธุรกิจเกมไทย



       ดูเหมือนว่า ตลาดเกมออนไลน์เมืองไทยจะเล็กไปเสียแล้ว ทำให้ “เอเชียซอฟท์” ต้องหาน่านน้ำใหม่ในตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตให้ตัวเองเพิ่มขึ้น
      
        ตลาดเกมออนไลน์เมืองไทยเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว จากข้อมูลของผู้ให้บริการเกมมองตรงกันว่า ตลาดเกมออนไลน์ยามนี้เติบโตไม่หวือหวา โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ในตัวเลขหลักเดียว มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  อ่านต่อ







*ที่มา ผู้จัดการ 360 องศา  http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewbrowse.aspx?browsenewsID=1141


.

วันเสาร์, เมษายน 09, 2554

พรบ. คอมฯ ใหม่ เพิ่มโทษผู้ดูแลระบบ ก๊อปไฟล์โหลดบิท เสี่ยงติดคุก


เมื่อวันจันทร์ที่28 มี.ค. 54 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัด ประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย
ร่างกฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิกพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 ทั้ง ฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้

ประเด็นที่1 เพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ”
มาตรา4 เพิ่ม นิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” หมายความว่า “ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น”
ใน กฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ “ผู้ให้บริการ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น “ตัวกลาง” ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น
สำหรับ ร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ “ผู้ให้บริการ” อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
ตาม ร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่นการเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ1.5 เท่าของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป
ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี 
สิ่งใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา16 ที่ เพิ่มมาว่า “ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ทั้งนี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่างๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า “แคช” (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว
ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด
ในมาตรา25 “ผู้ ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือ เยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ “การครอบครอง” อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม
ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา
มาตรา24 (1) นำ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน
เนื้อความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด ห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หาก พิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ “รัฐบาล” ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิด เห็นโดยไม่จำเป็น
ประเด็นที่5 ดูหมิ่น ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
มาตรา26 ผู้ ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่ผ่านมามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อ ในร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อหาการดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้นข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ประเด็นที่6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ
มาตรา21 ผู้ ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากที่กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่า การส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาเป็นจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้
ประเด็นที่7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี
มาตรา23 ผู้ ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความ ผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
น่าสังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำ หรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง
ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ
สำหรับกรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท(เพิ่มขึ้น 4 เท่า)
ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
ร่างกฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า “สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “สพธอ.” และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “ETDA” เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที
หน่วยงานนี้เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการ ประกาศผ่าน “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มี.. 54
ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ภายใต้ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับที่กำลังร่างนี้
นอกจากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา
ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน
ร่างกฎหมายนี้เพิ่มกลไก“คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้ อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี
คณะกรรมการชุดนี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน
คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดในพ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง “ปฏิบัติการอื่นใด” เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
แล้วคุณมีความคิดเห็นอย่างไร กับ พรบ. นี้
ที่มาของข้อมูล  
ฉันไม่ชอบกฎหมาย