วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 15, 2552

โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

สาเหตุเกิดจาก
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ (Influenza A , H1 N1 ) ที่มีการกลายพันธุ์ และไม่เคยพบมาก่อน มีการแพร่ระบาดจากคนสู่คน โดยมีสารพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดใหญ่ในหมูผสมอยู่ด้วย โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ 2009 ( h1 n1 ) สามารถพบได้ในหมูเลี้ยงหลากหลายสายพันธุ์ทั้ง H1 N1 , H1 N2 และ H3 N2 ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ (H1 N1) ส่วนใหญ่มักจะแพร่ระบาดในฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่สามารถพบเชื้อได้ตลอดทั้งปี เริ่มมีการรายงานผู้ป่วยครั้งแรกในช่วงเดือนมีนาคม 2552 จุดเริ่มต้นของการระบาดที่ประเทศเม็กซิโก จากนั้นก็มาที่สหรัฐอเมริกานั้น (แต่ยังไม่ทราบถึงแหล่งที่มาแน่ชัดว่ามาจากที่ใดเกิด)จากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดนี้นั้น เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบในคนมาก่อน และเกิดจากการผสมพันธุ์กันของสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหวั่นวิตกว่าเชื้อ H1 N1 อาจจะกลายพันธุ์ที่มีอันตรายต่อมนุษย์ยิ่งขึ้น

การแพร่กระจายและการติดต่อ
การติดต่อเช่นเดียวกับโรคหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
- หายใจเอาเชื้อไวรัสที่ปะปนอยู่ในฝอยละอองอากาศ น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ ซึ่งเกิดจากการไอ จาม ของผู้ป่วยฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ
- สัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ โดยการหยิบจับสิ่งของเครื่องใช้ หรือของร่วมกับผู้ป่วย บุคคลอื่น และเครื่องใช้สาธารณะ เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ลูกบิดประตู ราวโหนรถเมล์ ราวบันได แล้วใช้มือที่ปนเปื้อนไวรัสมาขยี้ตา จมูกและปาก
-
ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิด เอ สายพันธุ์ใหม่ มีอาการอย่างไร
มีไข้ (อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ) ร่วมกับ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว อ่อนเพลีย ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจพบภาวะหายใจผิดปกติ (หอบหายใจลำบาก) ในบุคคลที่มีร่างกายอ่อนแอ เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หากติดเชื้อดังกล่าวแล้วทำให้มีอาการรุนแรงได้ ดังนั้นผู้ทีมีอาการจะคล้ายเป็นหวัด มีไข้สูง ก็ไม่นิ่งนอนใจ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยรักษาและควบคุมโรคต่อไป

เมื่อใดจึงสงสัยว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ
เมื่อมีอาการดังกล่าว ร่วมกับมีการเดินทางกลับจากต่างประเทศหรือพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคภายใน 1 สัปดาห์

โรคนี้มีอาการรุนแรงมากแค่ไหน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการรุนแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จากการรายงานในขณะนี้อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ

เมื่อเป็นแล้วสามารถรักษาได้หรือไม่
ส่วนใหญ่แล้วโรคมันมักจะหายได้เองเหมือนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ในรายที่มีอาการรุนแรงสามารถใช้ยาต้านไวรัสเพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ยาต้านไวรัสซึ่งช่วยรักษาโรคไข้หวัดใหญ่นี้ได้ผล คือ ยาโอลเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) เป็นยาชนิดรับประทาน และยาซานามิเวียร์ (zanzmivir) เป็นยาชนิดพ่น การใช้ยาต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ ห้ามซื้อยามาทานเองโดยเด็ดขาด

ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะสามารถติดโรคนี้ได้หรือไม่
โอกาสติดโรคได้เท่ากับผู้ที่ไม่เคยได้รับการแดวัคซีน เนื่องจากวัคซีนในปัจจุบันยังไม่สามารถป้องกันโรคนี้ได้


สามรถรับประทานหมูได้หรือไม่
สามารถรับประทานเนื้อหมูที่สุกแล้วได้ตามปกติ เนื่องจากยังไม่มีรายงานการติดเชื้อจากการรับประทานเนื้อหมู

ถ้าท่านมีไข้ น้ำมูก ไอ ปวดเมื่อยตามตัวหรือไข้หวัดใหญ่ ท่านจะปฏิบัติตัวอย่างไร
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทยถ้ามีการ ควรปฏิบัติดังนี้
-พักพ่อนอยู่ในบ้านและนอนหลับให้เพียงพอ และควรแยก ห้องนอนเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
-ไม่ไอ จาม รดผู้อื่น ใช้ผ้าปิดปากและจมูกป้องกันทุกครั้ง เวลาไอหรือจามหรือสวมหน้ากากนามัย
-ล้างมือให้เสื้อสบู่ และน้ำทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ

แต่กรณีเคยไปประเทศที่มีการระบาดร่วมกับอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ที่ยังไม่ป่วยต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- ล้างมือบ่อยๆ ให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่สะดวก

ถ้าสงสัยว่าเป็นโรคต้องทำอย่างไร
ให้รีบไปพบแพทย์ ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน


การตรวจวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ 2009 H1 N1
ตรวจจากสารคัดหลั่งทั้งทางจมูกและปากของผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโรค โดยตรวจสอบภายในช่วง 24-27 ชั่วโมงแรกนับจากที่มีอาการแสดง รวมทั้งเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อค้นหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ด้วย

การปฏิบัติตัวป้องกันการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ 2009 H1 N1
1. ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือด้วยน้ำยาผสมแอลกอฮอล์เข้มข้นอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์
2. ปิดปาก และปิดจมูกเมื่อไอ หรือจามทุกครั้ง
3. หลีกเลี่ยงสัมผัสตัวผู้ป่วย หรือหากรู้ว่าตัวเองป่วยควรอยู่ห่างจากบุคคลอื่น
4. รับประทานเนื้อหมูที่ผ่านการชำแหละตามหลักสุขาภิบาลและปรุงสุก ซึ่งเชื้อไวรัสจะตายที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลล์เซียส
5. ควรรักษาสุขภาพที่แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ พักผ่อนให้เพียงพอออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ 2009 H1 N1 เป็นโรคที่ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู จึงสามารถบริโภคเนื้อหมูที่ปรุงสุกได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อหมูดิบเพราะอาจจะทำให้ติดโรคอื่นๆ เช่น พยาธิ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่มความคิดเห็นของคุณได้ที่นี่ Comment here