วันพฤหัสบดี, กันยายน 02, 2553

เผยกิน "ปลาทู 2 ตัว" ชะลอ "ความแก่" ปลอดโรครุมเร้า เรื่องเร่งด่วนที่ไม่ควรมองข้าม*

วันนี้ขอเอาใจคนรักสุขภาพหน่อยนะครับ  ไม่รู้นึกยังไงอยากจะอ่านเมล์ของฮอทเมล์ เพราะจะไม่ค่อยได้เปิด (ไม่ได้เปิดมา 2 อาทิตย์ เมล์เข้า 329 อ่านตาลายเลย)  พอดีมาเจอเรื่องนี้เข้า ก็เลยเอามาฝาก ยังไงก็ต้องขอบใจฟอร์เวิร์ดเมล์นะครับ (Arunya Bunpakdee )
 




แพทย์เชี่ยวชาญอายุรวัฒน์นานาชาติแนะ วิธีง่ายๆ  ช่วยคนไทยลดสังขารเสื่อมก่อนวัย อย่านอนดึก เลี่ยงแป้งน้ำตาลคุมน้ำหนัก  กินผักใบเขียววันละ กำมือ ปลาทู ตัว มีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซิตอัพวันละ  30 ครั้ง ฝึกหายใจลึกช่วยสติดีขึ้นชะลอแก่เร็ว  กรณีนายสำอาง สืบสมาน หัวหน้าโครงการวิจัยสุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  (มสธ.) เปิดเผยผลงานวิจัยคนไทยประสบปัญหาภาวะเสื่อมสังขารก่อนวัยอันควร  สาเหตุจากโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน การถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจเพิ่มขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมในการบริโภคที่เสี่ยง   
ขณะที่ชายไทยฮิตเป็นโรคความดันโลหิตและโรคตับ  ส่วนหญิงเป็นโรคคอพอกและหืดหอบนั้น   ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นพ.กฤษดา ศิรามพุช   
ู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ (International Anti-Aging Institute: IAAI) กล่าวว่า   
การเข้าสู่ภาวะเสื่อมสังขารก่อนวัยอันควรกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไม่ควรมองข้าม  เพราะจะนำไปสู่สังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า  ส่งผลต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ   

"
สาเหตุของภาวะเสื่อมสังขาร แบ่งออกเป็น ปัจจัย คือ  
1.
ปัจจัยภายในที่เกิดจากการสะมของความเครียด  ยิ่งขณะนี้ปัญหาการเมืองรุมเร้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ ยิ่งทำให้คนไทยมีภาวะเครียดสูงขึ้น  การก้าวสู่ภาวะแก่ก่อนวัยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากนี้ ปัญหาความเครียด 
จะพบมากในคนเมืองหลวง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพราะเป็นเมืองที่มีแต่การแข่งขัน มลภาวะสูง และ 
 
2.
ปัจจัยภายนอก สภาพแวดล้อม  
มลภาวะเป็นพิษต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภค  ที่ส่วนใหญ่นิยมบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล กาแฟ  จะมีสารที่ทำให้แก่สูงหรือที่เรียกว่า สารอนุมูลอิสระ  

"
พฤติกรรมการนอนหลับยังทำให้คนไทยแก่เร็วด้วย เนื่องจากคนส่วนใหญ่นิยมนอนช่วงเวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป ทั้งๆ  ที่เวลาที่ควรนอนหลับพักผ่อนมากที่สุด คือ ช่วง ทุ่ม และตื่นนอนตอน โมงเช้า เพราะเป็นช่วงที่ธาตุหนุ่มสาวหรือ โกรท ฮอร์โมน (growth hormone)  ซึ่งเป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโตจะหลั่งออกมามากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากเรานอนหลับหลังจากนั้นก็จะลดการหลั่งของธาตุหนุ่มสาว  สังเกตได้ว่าคนกรุงจะแก่เร็วมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะนอนดึกๆ กัน แต่หากลองมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนเสียใหม่ แค่เพียง สัปดาห์  ก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นทันที"   นพ.กฤษดากล่าวว่า สำหรับวิธีชะลอความเสื่อมของสังขารนั้นไม่ยาก  ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของตัวเอง โดยใช้วิธีง่ายๆ ที่เรียกว่า 3 H ประกอบด้วย   
 
1.Healthy Weight 
รู้จักควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้อ้วน โดยการเลี่ยงแป้งและน้ำตาล  โดยเฉพาะในอาหารจำพวกขนมปัง เค้ก เบเกอรี่ ส่วนน้ำตาล หลายคนหันมาบริโภคสารให้ความหวานแทน ซึ่งสารเหล่านี้ข้อควรระวังคือ  ไม่ควรนำมาประกอบอาหาร หรือถูกความร้อนสูงๆ  เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นทั้งใน 
และต่างประเทศระบุว่า เมื่อสารให้ควมหวาน  ประเภทน้ำตาลเทียมได้รับความร้อนสูงๆ อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งได้   
ดังนั้น การจะบริโภคน้ำตาลเทียมควรเลือกสารให้ความหวานที่ผลิตจากธรรมชาติ อาทิ  ชะเอมเทศ หรือหญ้าหวาน เป็นต้น  

"2.Healthy diet and Lifestyle 
บริโภคผักใบเขียวโดยควรบริโภคประมาณวันละ 5  กำมือ และปลาทูอีก ตัว   
อาหารเหล่านี้จะมีสารอาหารที่ช่วยต้านพวกสารแอนตี้ออกซิแดนซ์  หรืออนุมูลอิสระได้ และควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และ 

3.Healthy Mind  
คือต้องมีกำลังใจที่ดี มีจิตและสมาธิอยู่กับปัจจุบัน โดยให้ฝึกหายใจเข้าลึกๆ ให้ท้องป่อง และกลั้นหายใจสัก วินาที จากนั้นค่อยๆ  ผ่อนลมหายใจออกจะช่วยให้มีสติดีขึ้น"  

นพ.กฤษดากล่าวว่า ที่สำคัญควรรู้จักฝึกการใช้สมอง ซีกอย่างสม่ำเสมอ เพราะการที่ใช้สมองเพียงซีกเดียวจะทำให้เกิดความเสื่อมตามมา  หากเราถนัดมือขวาก็แสดงว่า สมองซีกซ้ายเราเด่น เราต้องทำให้สมองซีกขวาเด่นด้วย  โดยการฝึกใช้มือซ้าย หรือให้ฝึกการใช้สัมผัสอื่นๆ ที่เราไม่ถนัด นอกจากนี้การที่เรารู้สึกหิวนิดๆ ก็จะทำให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมามากด้วย  เพราะเมื่อร่างกายเริ่มหิวจะสั่งไปที่สมองให้หลั่งสารให้สมองรู้สึกโล่ง จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น การที่รู้สึกดีก็จะทำให้จิตใจดีช่วยชะลอความแก่ไปในตัว  

"
ที่สำคัญการออกกำลังกายจะช่วยได้มากในเรื่องนี้  ยิ่งการซิตอัพจะทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนขึ้น เพราะจะทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ดังนั้น ในแต่ละวันควรซิตอัพอย่างน้อย 30ครั้ง" นพ.กฤษดา กล่าว และว่า ปัจจุบันคนทำงานนิยมดื่มกาแฟกันมาก ทั้งๆ  ที่กาแฟเป็นตัวทำลายความอ่อนเยาว์ แต่จะให้เลิกกาแฟคงยาก ดังนั้น ไม่ควรทานกาแฟเกินวันละ แก้ว หรือควรทานกาแฟเพียงวันละ ช้อนชาก็เพียงพอ  ที่สำคัญอย่าลืมว่า  กาแฟยิ่งร้อนเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มความเข้มข้นให้กับคาเฟอีนซึ่งเป็นตัวอนุมูลอิสระที่สำคัญ  

1 ความคิดเห็น:

เพิ่มความคิดเห็นของคุณได้ที่นี่ Comment here