วันพุธ, ธันวาคม 02, 2552

โซเชียล เน็ตเวิร์กกิ้ง พลิกโฉมวงการสื่อสาร

ปัจจุบันผู้คนสื่อสารกันมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมหาศาลไม่ใช่แค่เพียงการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น หากแต่ส่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมแบบเดิม

ในการปรับปรุงกลยุทธ์และมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจ นอกจากต้องทำความเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้ว ผู้ให้บริการโทรคมนาคมเหล่านี้ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการสื่อสาร ของคนอีกด้วย

พฤติกรรมการสื่อสารที่เปลี่ยนไปคือ ปัจจุบันผู้คนเข้าสู่สังคมออนไลน์ (Social Network) มากขึ้น โดยข้อมูลจาก Comscore ระบุว่า ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกเข้าใช้สังคมออนไลน์เป็นประจำ จนกลายเป็นหัวใจสำคัญในโลกเน็ต และเป็นศูนย์กลางของการสื่อสารอย่างรวดเร็ว

มีผู้ให้บริการโทรคมนาคมในหลายประเทศที่ตอบสนองต่อความท้าทายและโอกาสของสังคมออนไลน์ หลายรายกำลังริเริ่มโครงการต่างๆ ตั้งแต่การรองรับเว็บไซต์สังคมออนไลน์เดิมไปถึงขยายบริการให้ครอบคลุมถึงการสื่อสารบนมือถือ แม้แต่การสร้างสังคมออนไลน์ขึ้นมาใหม่เอง อาทิ สปรินต์(Sprint) เอทีแอนด์ที(AT&T) และแวนด้าโฟน(Voafone) อนุญาตให้สมาชิกมายสเปซ (MySpace) และเฟซบุ๊ก (Facebook) เข้าถึงโปรไฟล์ของตนเองได้จากมือถือ

วิวัฒนาการแห่งการสื่อสาร
อาจกล่าวได้ว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วของสังคมออนไลน์สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงระยะยาวของแนวโน้มการสื่อสารที่สำคัญใน 2 ด้าน ได้แก่
1. รูปแบบการสื่อสาร ที่เปลี่ยนจากการสนทนาแบบจุดต่อจุด (point-to-point) และสองทาง (two-way) ไปสู่การสื่อสารระหว่างผู้ใช้หลายคนมากขึ้น มีการใช้ลิงก์, วีดีโอ, ภาพถ่าย และเนื้อหามัลติมีเดียมากขึ้น โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า Net Generation คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูปแบบการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป คนกลุ่มนี้ชื่นชอบการแลกเปลี่ยนเนื้อหา การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และเติบโตมาพร้อมกับแนวคิด “ความฉลาดของฝูงชน” (Wisdom of Crowds) อาทิ การทำหน้าที่ให้คะแนน จัดอันดับผู้ใช้คนอื่นๆ รวมถึงการจัดอันดับสินค้าและบริการ สังคมออนไลน์จึงกลายเป็นช่องทางการสื่อสารหลักสำหรับคนกลุ่มนี้ ซึ่งสามารถทดแทนอี-เมล์ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์ได้
2. การควบคุมการสื่อสาร ที่เปลี่ยนจากระบบครอบครองโดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมแบบเดิม ไปสู่ผู้ให้บริการบนแพลตฟอร์มเปิดบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีเทคโนโลยีการสื่อสารที่ดีขึ้นและมีราคาถูกลง รวมถึงการใช้บรอดแบนด์ และเครือข่ายไร้สายเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้แพลตฟอร์มแบบปิด เช่น เว็บไซต์สังคมออนไลน์ กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับบริการสื่อสาร และผู้บริโภคก็ตอบสนองต่อแนวโน้มนี้อย่างกว้างขวาง


ผลกระทบของความเปลี่ยนแปลงต่อสถาพแวดล้อมการสื่อสาร
จากรายงานของ IBM Institute for Business Value ได้วิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของรูปแบบและการควบคุมการสื่อสาร ที่ส่งผลกระทบต่อภาวการณ์แข่งขันในตลาด

การสื่อสารแบบเดิม (Traditional communication) หมายถึง การสนทนาระหว่างคู่สนทนาสองฝ่ายภายใต้การควบคุมของผู้ให้บริการโทรคมนาคม แม้จะเป็นสัดส่วนรายได้ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดในแง่ของรายได้และผู้ใช้ แต่ก็เริ่มมีอัตราการเจริญเติบโตที่ลดลง ­ขณะที่การสื่อสารรูปแบบอื่นๆ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

โดยข้อมูลจาก การ์ตเนอร์ (Gartner) ระบุว่า รายได้จากบริการโทรศัพท์พื้ฐานมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายได้จากการบริการโทรศัพท์มือถือแม้จะมีอัตราเติบโต 7.6 % ช่วงปี 2007-2012 แต่พบว่าฐานผู้ใช้มือถือก็ถึงจุดอิ่มตัวแล้วในตลาดสำคัญๆ

ระบบที่เปิดใช้งานได้ฟรี (Open and Free) การสื่อสารในรูปแบบนี้นำเสนอทางเลือกบนแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตแบบเปิด เพื่อทดแทนบริการโทรคมนาคมแบบเดิม เช่น VolP โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือคิดค่าบริการในราคที่ถูกมาก อาทิ skype, Google Talk และ Windows Live Messenger บริการเหล่านี้กำลังมาแรง ทำให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมแบบเดิม เช่น โทรศัพท์ทางไกล ต้องร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน
อย่งไรก็ตาม เริ่มมีผู้ให้บริการบางรายกำลังปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการกลุ่มนี้ ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ “3” (Three) ในออสเตรเลียและอังกฤษ ร่วมมือกับ Skype ในการเปิดตัว 3 Skypephon เพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ และรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่

ระบบชุมชน (Gated Communication) รูปแบบนี้มุ่งเน้นการสื่อสารกันภายในกลุ่มของผู้ให้บริการโทรคมนาคม โดยได้รับความนิยมจากผู้ใช้และองค์กรที่ต้องการการสื่อสารที่ไว้ใจได้ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ตัวอย่างกรณีนี้คือ การขยายสังคมออนไลน์ไปสู่มือถือ โดยที่ผู้ให้บริการมือถือยังสามารถผูกขาดบริการได้ในระดับหนึ่ง อาทิ สังคมออนไลน์ Mixi ในญี่ปุ่น ปัจจุบันมีจำนวนเพจวิว (page view) ผ่านมือถือ แซงหน้าเพจวิวบนเว็บไซต์ปกติเรียบร้อยแล้ว

ระบบสังคมเปิด (Shared Social Spaces) ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานหรือสังสรรค์ร่วมกันบนระบบอินเตอร์เน็ตแบบเปิด ตัวอย่างผู้ให้บริการนี้ได้แก่ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเสริม (Over The Top – OTT) เช่น Myspace , YouTube และ Facebook หรือ Second Life
จะเห็นได้ว่าผู้ให้บริการเหล่านี้มีศักยภาพที่จะนำเสนอการสื่อสารแบบครบวงจร ด้วยการผนวกรวมบริการโทรศัพท์เข้ากับบริการเสริมต่างๆ อาทิ สังคมออนไลน์ อี-เมล์ การรับส่งข้อความต่างๆ กำลังเป็นรูปแบธุรกิจที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ให้บริการโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นช่องทางการขยายลูกค้าใหม่ๆ

อีกด้านหนึ่งบริการเสริมเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพราะบริการเสริมอาจเป็นการเพิ่มภาระให้แก่โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายที่มีอยู่ และส่งผสให้ต้นทุนในการให้บริการเพิ่มมากขึ้น


ที่มา – นสพ. มติชน ฉบับวันที่ 1 ธันวาคม 2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพิ่มความคิดเห็นของคุณได้ที่นี่ Comment here